ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดดิ่งลงกว่า 200 จุด บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4
ณ เวลา 20.00 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 201 จุด หรือ 0.6% สู่ระดับ 34,335 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลง 2.29% นับตั้งแต่ต้นสัปดาห์ โดยมีแนวโน้มทรุดตัวลงรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. ขณะที่ดัชนี S&P 500 มีแนวโน้มร่วงลงติดต่อกัน 3 สัปดาห์ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.พ. ส่วนดัชนี Nasdaq มีแนวโน้มร่วงลงติดต่อกัน 3 สัปดาห์เช่นกัน เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2565
การซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐถูกกดดันในสัปดาห์นี้ หลังการดีดตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และการที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ ขู่ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารสหรัฐ
นอกจากนี้ นักลงทุนมีความกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงนานกว่าที่คาดไว้ หลังรายงานการประชุมประจำวันที่ 25-26 ก.ค.ระบุว่า เฟดมีความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมายที่ระดับ 2% ซึ่งทำให้เฟดจำเป็นต้องใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินต่อไป
สหรัฐไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในสัปดาห์หน้า
เฟดออกแถลงการณ์ยืนยันว่า นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว โดยนายพาวเวลจะกล่าวสุนทรพจน์ในวันศุกร์ที่ 25 ส.ค. เวลา 10.05 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.05 น.ตามเวลาไทย
ทั้งนี้ การประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮลในปีนี้จะมีขึ้นในวันที่ 24-26 ส.ค. ในหัวข้อ "Structural Shifts in the Global Economy"
การประชุมประจำปีดังกล่าวได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยผู้ว่าการธนาคารกลาง รัฐมนตรีคลัง นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน จากประเทศต่างๆทั่วโลก จะเดินทางเข้าร่วมการประชุม ขณะที่ไฮไลท์จะอยู่ที่การกล่าวปาฐกถาของประธานเฟดในขณะนั้นเพื่อแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับนโยบายการเงิน และแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวลเพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ หลังเงินเฟ้อเริ่มมีแนวโน้มชะลอตัวลง
โกลด์แมน แซคส์ออกรายงานระบุว่า เฟดได้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว แม้ว่านายพาวเวลไม่ได้กล่าวอย่างชัดเจนในการแถลงข่าวหลังการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 26 ก.ค.
"เราคาดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในวันที่ 26 ก.ค.ถือเป็นการปรับขึ้นครั้งสุดท้ายสำหรับวัฏจักรปัจจุบัน และเราคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. โดยเฟดจะสรุปในเดือนพ.ย.ว่าเงินเฟ้อได้ชะลอตัวลงอย่างเพียงพอจนทำให้เฟดไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกต่อไป" รายงานระบุ
นักลงทุนคาดการณ์เช่นเดียวกันว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. และในช่วงที่เหลือของปีนี้ ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2567
ด้านนายพาวเวลกล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 26 ก.ค.ว่า เฟดไม่มีการกำหนดทิศทางนโยบายการเงินไว้ล่วงหน้า โดยจะทำการตัดสินใจในการประชุมเป็นรายครั้ง ซึ่งจะพิจารณาจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในขณะนั้น
"มีความเป็นไปได้ที่เราอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. หากข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงเวลาดังกล่าวสนับสนุนให้เราดำเนินการเช่นนั้น แต่ก็มีความเป็นไปได้เช่นเดียวกันที่เราอาจคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. หากการดำเนินการดังกล่าวสอดคล้องกับจุดยืนด้านนโยบายของเรา" นายพาวเวลกล่าว