ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันจันทร์ (21 ส.ค.) หลังร่วงลง 4 วันติดต่อกัน เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานและเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นตามทิศทางราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลก ขณะที่หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นโนโว นอร์ดิสค์ บริษัทเวชภัณฑ์ของเดนมาร์ก
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับ 448.66 จุด เพิ่มขึ้น 0.22 จุด หรือ +0.05% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,198.06 จุด เพิ่มขึ้น 33.95 จุด หรือ +0.47%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,603.28 จุด เพิ่มขึ้น 29.02 จุด หรือ +0.19% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,257.82 จุด ลดลง 4.61 จุด หรือ -0.06%
หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้น 0.6% และ 0.4% ตามลำดับ โดยปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบและโลหะ
หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ปรับตัวขึ้น 0.3% หลังหุ้นโนโว นอร์ดิสค์ บวก 0.8% หลังมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายราคาหุ้น
หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหรา อาทิ แอลวีเอ็มเอชและเคอริง ดีดตัวขึ้น 0.9% และ 1.2% ตามลำดับ หลังร่วงลง 6 วันจากความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์ของจีน
หุ้นกลุ่มรถยนต์ปรับตัวขึ้น 1.1% หลังหุ้นคอนติเนนทัล ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์รถยนต์ของเยอรมนี พุ่ง 5.9% หลังรายงานว่าความเป็นไปได้ในการปรับโครงสร้างของบริษัทจะเกี่ยวกับการขายสินทรัพย์
แต่หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ของยุโรป ปรับตัวลง 2% โดยถูกกดดันจากผลสำรวจราคาบ้านของอังกฤษร่วงลงอย่างรุนแรงในเดือนส.ค.
บรรดานักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางที่แจ็กสัน โฮลในสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่านายเจอร์โรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และนางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะบ่งชี้เกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย