ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพุธ (23 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะหยุดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้ หลังจากที่มีการเปิดเผยผลสำรวจบ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจในยูโรโซนชะลอตัวเกินคาดในเดือนส.ค. โดยเฉพาะในเยอรมนีซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของยุโรป
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับ 453.45 จุด เพิ่มขึ้น 1.75 จุด หรือ +0.39%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,246.62 จุด เพิ่มขึ้น 5.74 จุด หรือ +0.08%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,728.41 จุด เพิ่มขึ้น 22.79 จุด หรือ +0.15% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,320.53 จุด เพิ่มขึ้น 49.77 จุด หรือ +0.68%
ตลาดหุ้นยุโรปลดช่วงบวกลง หลังพุ่งขึ้นมากถึง 0.8% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ โดยการพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ของหุ้นโรช ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ของสวิตเซอร์แลนด์นั้นได้ช่วยหนุนตลาด
การเปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคในยูโรโซนที่ลดลง 0.9 จุดในเดือนส.ค.นั้นเป็นปัจจัยถ่วงตลาดด้วย
หุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์บวก 1.1% โดยได้แรงหนุนจากหุ้นโรชที่พุ่งขึ้น 3.8% หลังเปิดเผยข้อมูลการทดลองยารักษามะเร็งปอดที่เป็นไปในเชิงบวก และหุ้นโนโว นอร์ดิสค์ พุ่ง 2.7%
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย พุ่งขึ้น 2.1% หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีอายุ 10 ปี ปรับตัวลง
แต่หุ้นกลุ่มพลังงานลดลง 1.1% ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง ขณะที่หุ้นพูมา, อาดิดาส และเจดี สปอร์ตส แฟชั่น ร่วง 3.3-5.4% หลังจากบริษัทฟุต ล็อกเกอร์ของสหรัฐปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการทั้งปี เนื่องจากอุปสงค์อ่อนแอลงท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อในระดับสูง
จุดสนใจของตลาดในสัปดาห์นี้อยู่ที่การประชุมธนาคารกลางที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิงของสหรัฐ ซึ่งคาดว่าการแถลงสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และนางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะบ่งชี้แนวโน้มนโยบายการเงิน