ดัชนีดาวโจนส์พลิกร่วงลงสู่แดนลบ ท่ามกลางการซื้อขายผันผวน ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันนี้
ณ เวลา 21.40 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 34,468.71 จุด ลบ 4.27 จุด หรือ 0.01% ส่วนดัชนี Nasdaq และดัชนี S&P 500 ลบ 0.48% และ 0.17% ตามลำดับ
ราคาหุ้นบริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 5% แตะระดับ 502.66 ดอลลาร์ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี โดยได้แรงหนุนจากกระแสความสนใจในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ทั้งนี้ Nvidia เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 2.70 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาส 2 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.09 ดอลลาร์/หุ้น
บริษัทมีรายได้ 1.351 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.122 หมื่นล้านดอลลาร์
ราคาหุ้นของ Nvidia พุ่งขึ้นมากกว่า 220% นับตั้งแต่ต้นปี 2566 ขณะที่นักวิเคราะห์ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้น Nvidia สู่ระดับ 600 ดอลลาร์ จากเดิมที่ระดับ 500 ดอลลาร์
การพุ่งขึ้นของราคาหุ้น ส่งผลให้ Nvidia เป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์
นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันนี้
เฟดจัดการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮลในวันที่ 24-26 ส.ค. ในหัวข้อ "Structural Shifts in the Global Economy"
ตลาดจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในการประชุมดังกล่าว เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ โดยนายพาวเวลจะกล่าวสุนทรพจน์ในวันพรุ่งนี้ เวลา 10.05 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.05 น.ตามเวลาไทย
ทั้งนี้ การประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล ถือเป็นการประชุมที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยผู้ว่าการธนาคารกลาง รัฐมนตรีคลัง นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน จากประเทศต่างๆทั่วโลก จะเดินทางเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว ขณะที่ไฮไลท์จะอยู่ที่การกล่าวปาฐกถาของประธานเฟดเพื่อแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับนโยบายการเงิน และแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
โกลด์แมน แซคส์ออกรายงานระบุว่า เฟดได้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว แม้ว่านายพาวเวลไม่ได้กล่าวอย่างชัดเจนในการแถลงข่าวหลังการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 26 ก.ค.
"เราคาดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในวันที่ 26 ก.ค.ถือเป็นการปรับขึ้นครั้งสุดท้ายสำหรับวัฏจักรปัจจุบัน และเราคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. โดยเฟดจะสรุปในเดือนพ.ย.ว่าเงินเฟ้อได้ชะลอตัวลงอย่างเพียงพอจนทำให้เฟดไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกต่อไป" รายงานระบุ
นักลงทุนคาดการณ์เช่นเดียวกันว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. และในช่วงที่เหลือของปีนี้ ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2567
ด้านนายพาวเวลกล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 26 ก.ค.ว่า เฟดไม่มีการกำหนดทิศทางนโยบายการเงินไว้ล่วงหน้า โดยจะทำการตัดสินใจในการประชุมเป็นรายครั้ง ซึ่งจะพิจารณาจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในขณะนั้น
"มีความเป็นไปได้ที่เราอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. หากข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงเวลาดังกล่าวสนับสนุนให้เราดำเนินการเช่นนั้น แต่ก็มีความเป็นไปได้เช่นเดียวกันที่เราอาจคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. หากการดำเนินการดังกล่าวสอดคล้องกับจุดยืนด้านนโยบายของเรา" นายพาวเวลกล่าว