ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ในวันอังคาร (29 ส.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ปรับตัวขึ้นตามความแข็งแกร่งของราคาโลหะ
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 459.83 จุด เพิ่มขึ้น 4.42 จุด หรือ +0.97%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,373.43 จุด เพิ่มขึ้น 48.72 จุด หรือ +0.67%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,930.88 จุด เพิ่มขึ้น 138.27 จุด หรือ +0.88% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,464.99 จุด เพิ่มขึ้น 126.41 จุด หรือ +1.72%
สำหรับหุ้นรายตัวที่ช่วยหนุนตลาดนั้น หุ้นเอ็นเอ็น กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทประกันรายใหญ่ที่สุดของเนเธอร์แลนด์ พุ่งขึ้น 10.2% โดยได้แรงหนุนจากสถานะเงินทุนที่ดีขึ้นในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ พุ่งขึ้น 2.1% แตะระดับสูงสุดของวันในรอบ 3 สัปดาห์ จากแรงซื้อของนักลงทุนที่ยังคงมีความเชื่อมั่น หลังจากจีนซึ่งเป็นผู้บริโภคน้ำมันดิบและโลหะได้ออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงการลดภาษีอากรแสตมป์ในการซื้อขายหุ้นลงครึ่งหนึ่ง
หุ้นเอชเอสบีซีและหุ้นพรูเดนเชียลที่ทำธุรกิจในจีน ปรับตัวขึ้น 1.3% และ 4% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นบาร์เคลย์พุ่ง 4.2% และหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์บวก 0.6%
หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราซึ่งพึ่งพาอุปสงค์จากผู้บริโภคจีน ปรับตัวขึ้น 1.3% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ บวก 1.4% แม้บรรดาเทรดเดอร์คาดการณ์เพิ่มขึ้นว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนก.ย. หลังจากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ECB จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
บรรดานักลงทุนจะจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของยูโรโซน, ฝรั่งเศส และเยอรมนีในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มนโยบายอัตราดอกเบี้ย