ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพุธ (30 ส.ค.) โดยถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนที่ปรับตัวขึ้นจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในเดือนก.ย.นี้
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 459.13 จุด ลดลง 0.70 จุด หรือ -0.15%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,364.40 จุด ลดลง 9.03 จุด หรือ -0.12%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,891.93 จุด ลดลง 38.95 จุด หรือ -0.24% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,473.67 จุด เพิ่มขึ้น 8.68 จุด หรือ +0.12%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนปรับตัวขึ้น เนื่องจากบรรดาเทรดเดอร์คาดว่า ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในเดือนก.ย.
ข้อมูลเบื้องต้นบ่งชี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค.ของเยอรมนี เพิ่มขึ้น 6.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ลดลงจาก 6.5% ของเดือนก.ค. แต่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 6.3%
ขณะที่เงินเฟ้อของทั้งเยอรมนีและสเปนเพิ่มขึ้นมากเกินคาดนั้น บรรดานักลงทุนรอการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของยูโรโซนในวันพฤหัสบดีนี้
หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคร่วงลง 1.9% โดยถูกกดดันจากหุ้นออร์สเตดของเดนมาร์กซึ่งพัฒนาฟาร์มพลังงานลมนอกชายฝั่ง ร่วงลงเป็นประวัติการณ์ถึง 24.8% หลังเปิดเผยว่ามูลค่าการลงทุนของบริษัทในสหรัฐนั้น จะลดลง 1.6 หมื่นล้านโครนเดนมาร์ก (2.3 พันล้านดอลลาร์)
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่หุ้นของบริษัทต่าง ๆ ที่ทำธุรกิจในประเทศกาบองร่วงลงตามกัน หลังเกิดการรัฐประหารโดยกองทัพในกาบอง ซึ่งทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ อาทิ หุ้นทูลโลว์ ออยล์ บริษัทผลิตน้ำมันของอังกฤษ ร่วง 6.56% และหุ้นโททาลเอเนอร์จีส์ กาบองของฝรั่งเศส ร่วง 14.49%