ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบเล็กน้อย บอนด์ยีลด์บวกกดดันตลาด

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเล็กน้อยในวันจันทร์ (4 ก.ย.) โดยถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยุโรปที่ปรับตัวขึ้น หลังตลาดพุ่งขึ้นในช่วงเช้าแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 สัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน และหุ้นโนโว นอร์ดิสค์ ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ของเดนมาร์กพุ่งแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 457.96 จุด ลดลง 0.17 จุด หรือ -0.04%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,279.51 จุด ลดลง 17.26 จุด หรือ -0.24%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,824.85 จุด ลดลง 15.49 จุด หรือ -0.10% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,452.76 จุด ลดลง 11.78 จุด หรือ -0.16%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น 0.5% โดยหุ้นเอเอสเอ็มแอล ซึ่งเป็นบริษัทผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ของเนเธอร์แลนด์ บวก 0.8%

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้น 0.6% หลังพุ่งขึ้นเกือบ 2% เนื่องจากสัญญาแร่เหล็กทะยานขึ้นจากความเชื่อมั่นเกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน

จีนเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยธนาคารชั้นนำปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง และจีนยังเตรียมผ่อนคลายข้อจำกัดในการซื้อบ้านด้วย

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับจีน ปรับตัวขึ้น 0.1% ขณะที่หุ้นกลุ่มรถยนต์ ปรับตัวขึ้น 0.3%

หุ้นแอลวีเอ็มเอช ปรับตัวลง 0.4% หลังบวกขึ้นในช่วงแรก และถ่วงดัชนี STOXX 600 ลดลง

หุ้นโนโว นอร์ดิสค์ ปรับตัวขึ้น 0.7% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ระหว่างวันหลังเปิดตัวยาวีโกวี (Wegovy) ซึ่งเป็นยาฉีดลดน้ำหนักในอังกฤษ โดยมูลค่าตลาดของโนโวแตะ 4.247 แสนล้านดอลลาร์แซงหน้าแอลวีเอ็มเอชขึ้นเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดของยุโรปได้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

หุ้นเทเลคอม อิตาลี พุ่งขึ้น 3.5% หลังบาร์เคลย์ส แนะนำให้ถือหุ้น จากเดิมที่แนะนำให้ลดน้ำหนักการลงทุน

บรรดานักลงทุนจะรอการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของเยอรมนี และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของยูโรโซนในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจของยุโรปก่อนการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 14 ก.ย.