ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันอังคาร (5 ก.ย.) หลังจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์ของผู้บริโภคที่ลดลง
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,437.93 จุด ลดลง 14.83 จุด หรือ -0.20%
ตลาดปรับตัวลงหลังการเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า กิจกรรมทางธุรกิจในภาคบริการของอังกฤษลดลงในเดือนส.ค.เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค. ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียและยุโรปเผชิญแรงกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอทั้งในจีนและในยูโรโซน ทำให้คาดว่าอุปสงค์ของผู้บริโภคจะอ่อนแอลง
หุ้นที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ลดลง อาทิ หุ้นกลุ่มเหมืองโลหะอุตสาหกรรมลดลง 0.8% หลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีน
หุ้นกลุ่มค้าปลีกลดลง หลังเจ.พี.มอร์แกน ลดคำแนะนำลงทุนในหุ้นกลุ่มค้าปลีกอาหารของยุโรป โดยระบุถึงแนวโน้มราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่ลดลง ส่งผลให้หุ้นกลุ่มค้าปลีกอาหารปรับตัวลง 1%
หุ้นบีแอนด์เอ็ม ยูโรเปียน แวลู รีเทล ร่วง 3.4% และหุ้นเทสโก้ ร่วง 2.8% หลังเจ.พี.มอร์แกนปรับลดคำแนะนำลงทุนในหุ้นดังกล่าว
แต่หุ้นกลุ่มรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ ปรับตัวขึ้น 2.1% สวนทางตลาด หลังรายงานระบุว่า การจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ในอังกฤษเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 13 ติดต่อกันในเดือนส.ค. และเพิ่มขึ้นมากกว่า 20% จากปีก่อน
หุ้นกลุ่มพลังงานบวก 1.3% ตามการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน