ดาวโจนส์พลิกร่วงแดนลบ กังวลน้ำมันพุ่งหนุนเฟดขึ้นดอกเบี้ย

ดัชนีดาวโจนส์พลิกร่วงลงสู่แดนลบ ท่ามกลางความกังวลที่ว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น อาจหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ณ เวลา 21.19 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 34,601.11 จุด ลบ 44.88 จุด หรือ 0.13%

นายเกรก แมคไบรด์ หัวหน้านักวิเคราะห์จาก Bankrate ออกรายงานระบุว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า หลังการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันนี้

อย่างไรก็ดี นายแมคไบรด์ระบุว่า รายงานดัชนี CPI ดังกล่าว ได้สร้างความกังวลว่าราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น อาจทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งก่อนสิ้นปีนี้

นักลงทุนเทน้ำหนักมากกว่า 90% ในการคาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า หลังการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อในวันนี้

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 95.0% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 19-20 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 5.0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.50-5.75%

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนส.ค.ในวันนี้

ทั้งนี้ ดัชนี CPI ทั่วไป (headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.7% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.6%

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไปปรับตัวขึ้น 0.6% ในเดือนส.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 4.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.2%