ตลาดหุ้นยุโรปเปิดลบเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (14 ก.ย.) โดยนักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวัง ก่อนการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 10 ติดต่อกัน
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 เปิดตลาดที่ระดับ 454.05 จุด เพิ่มขึ้น 0.11 จุด หรือ +0.02%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีเปิดตลาดที่ระดับ 15,652.41 จุด ลดลง 1.62 จุด หรือ -0.01% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดที่ 7,216.08 จุด ลดลง 6.49 จุด หรือ -0.09%
ดัชนีหุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานปรับตัวขึ้น 1.5% ดัชนีหุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซปรับตัวขึ้น 0.7% ในขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มยานยนต์ดิ่งลง 1.4% เนื่องจากกระแสกังวลว่าจีนอาจไม่พอใจและตอบโต้กรณีที่สหภาพยุโรปดำเนินการสอบสวนเกี่ยวรถยนต์ไฟฟ้าของจีน ซึ่งอ้างว่าได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลจีน
หุ้นเดลิเวอรู (Deliveroo) บริษัทผู้ให้บริการจัดส่งอาหารของอังกฤษ พุ่งขึ้น 6.7% หลังจากที่ซาเชม แคปิตอล (Sachem Capital) บริษัทด้านการลงทุนของสหรัฐ เผยแพร่รายงานระบุว่า เดลิเวอรู มีโอกาสเป็นเป้าหมายที่จะถูกบริษัทอื่น ๆ เข้าซื้อกิจการ
หุ้นทีเอชจี (THG) บริษัทผู้ค้าปลีกออนไลน์ของอังกฤษร่วงลงเกือบ 10% หลังจากคาดการณ์รายได้รายปีจากการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องจะทรงตัว หรือปรับตัวลงมากถึง 5%
ตลาดคาดการณ์ว่ามีโอกาสประมาณ 65% ที่ ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในวันนี้ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยหลักของยุโรปพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์และนักลงทุนมีความเห็นว่า ECB จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยชั่วคราว จนกระทั่งสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันอังคาร (12 ก.ย.) ว่า ECB มีแนวโน้มว่าจะปรับเพิ่มการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในปีหน้าในระดับที่สูงกว่า 3% ซึ่งทำให้มีโอกาสมากขึ้นที่ ECB จะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย