ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันจันทร์ (18 ก.ย.) โดยปรับตัวลงมากที่สุดในรอบกว่า 1 เดือน โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังในการซื้อขายขณะรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,652.94 จุด ลดลง 58.44 จุด หรือ -0.76%
หุ้นกลุ่มรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ร่วงลง 6.1% ขณะที่หุ้นกลุ่มก่อสร้างบ้านและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยปรับตัวลง 3.0% และ 2.7% ตามลำดับ
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดัน เนื่องจากหน่วยงานด้านการผลิตหลักของอังกฤษได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของภาคอุตสาหกรรมในปีนี้และปีหน้า โดยระบุถึงผลผลิตจากโรงงานที่ลดลงอย่างมากและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม หุ้นมอนดิซึ่งเป็นบริษัทกระดาษและบรรจุภัณฑ์ของอังกฤษปรับตัวขึ้น 3.3% สวนทางตลาด หลังจากบริษัทตกลงที่จะขายโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซียให้กับซีซาร์ กรุ๊ป บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในรัสเซียด้วยเงินสด 8 หมื่นล้านรูเบิล (825.7 ล้านดอลลาร์)
บรรดานักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันอังคาร-พุธนี้ ซึ่งคาดว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม และคาดว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับ 5.5% ในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้