ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 เปิดตลาดที่ระดับ 456.36 จุด ลดลง 0.16 จุด หรือ -0.04%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีเปิดตลาดที่ระดับ 15,703.09 จุด เพิ่มขึ้น 38.61 จุด หรือ +0.25% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดที่ 7,278.92 จุด ลดลง 3.20 จุด หรือ -0.04%
หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ปรับตัวขึ้น 0.9% ในขณะที่หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซปรับตัวลดลง 0.8%
หุ้นจัสต์ อีท เทคอะเวย์ (Just Eat Takeaway) บริษัทส่งอาหารออนไลน์ของเนเธอร์แลนด์ พุ่งขึ้นเกือบ 6% หลังจากที่ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางกล่าวเมื่อวานนี้ (19 ก.ย.) ว่า กรับฮับ (Grubhub) บริษัทลูกในสหรัฐของจัสต์ อีท เทคอะเวย์ และบริษัทจัดส่งอาหารอื่น ๆ สามารถฟ้องร้องนครนิวยอร์กได้ หลังนครนิวยอร์กกำหนดเพดานค่าบริการจัดส่งอาหารที่สามารถเรียกเก็บจากร้านอาหาร
บรรดาบริษัทแบรนด์สินค้าหรูรายใหญ่ต่างหุ้นดิ่งลง หลังจากถูกหั่นอันดับความน่าลงทุนของหุ้น โดยหุ้นแอลวีเอ็มเอช (LVMH) ซึ่งพึ่งพาตลาดจีนเป็นอย่างมาก ร่วงลง 0.4% หลังจากที่เจฟฟรีส์ปรับลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นลงเป็น "ถือ" (hold) และดอยซ์แบงก์ก็ปรับลดเป้าหมายราคาหุ้นลง เนื่องจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดต่ำลง
นอกจากนี้ เจฟฟรีส์ยังปรับลดอันดับความน่าลงทุนของเคอริง (Kering) และมงแคลร์ (Moncler) ส่งผลให้หุ้นเคอริงร่วงลง 0.8% และหุ้นมงแคลร์ร่วงลง 0.9%
หุ้นเพียร์สัน (Pearson) บริษัทด้านการศึกษาของอังกฤษ ร่วงลง 4.5% หลังจากบริษัทกล่าวว่าได้แต่งตั้งนายโอมาร์ แอบบอช ผู้บริหารของไมโครซอฟท์ (Microsoft) ขึ้นเป็นซีอีโอคนใหม่ โดยจะมีผลในช่วงต้นปี 2567
สกุลเงินปอนด์อ่อนค่าลง หลังจากอังกฤษเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค.อยู่ที่ระดับ 6.7% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ที่ 7% โดยการเปิดเผยดังกล่าวมีขึ้นเพียงหนึ่งวันก่อนการประกาศการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความไม่มั่นใจว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตารอการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม