ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ (22 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี และแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,963.84 จุด ลดลง 106.58 จุด หรือ -0.31%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,320.06 จุด ลดลง 9.94 จุด หรือ -0.23% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,211.81 จุด ลดลง 12.18 จุด หรือ -0.09%
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ติดลบ 1.9%, ดัชนี S&P500 ลดลง 2.9% และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 3.6%
ตลาดถูกกดดันจากความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟด โดยนางมิเชล โบว์แมน ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกบอร์ดผู้ว่าการเฟดกล่าวว่า เฟดจำเป็นต้องเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
"ดิฉันยังคงคาดว่าเฟดจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อให้เงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายในเวลาที่เหมาะสม" นางโบว์แมนกล่าว และเสริมว่า ข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่ายังคงไม่มีความคืบหน้าที่เพียงพอในการสกัดให้เงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%
ถ้อยแถลงของนางโบว์แมนสอดคล้องกับนางซูซาน คอลลินส์ ประธานเฟด สาขาบอสตัน ซึ่งกล่าวสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป หากเงินเฟ้อยังไม่ชะลอตัวลง
"ข้อมูลเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมาเป็นที่น่าพอใจ แต่ก็ยังคงเร็วเกินไปที่เฟดจะประกาศชัยชนะ"
"ดิฉันคิดว่าเฟดควรที่จะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงและนานกว่าที่คาดไว้ และเฟดไม่ควรตัดทางเลือกในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรอบใหม่ โดยเจ้าหน้าที่เฟดควรเตรียมพร้อมในการบรรลุภารกิจที่ได้รับมอบหมาย" นางคอลลินส์กล่าว
นอกจากนี้ นางคอลลินส์กล่าวว่า เฟดพร้อมที่จะสกัดเงินเฟ้อ และไม่ทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ในบรรดาหุ้น 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 นั้น หุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยปรับตัวลงมากที่สุด ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มพลังงานเป็นเพียงสองกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด
หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ โค พุ่งขึ้น 1.9% หลังสหภาพแรงงานยานยนต์สหรัฐ (United Auto Workers - UAW) รายงานความคืบหน้าในการเจรจากับฟอร์ด
หุ้นแอคติวิชัน บลิซซาร์ด (Activision Blizzard) ปรับตัวขึ้น 1.7% หลังหน่วยงานกำกับดูแลด้านการผูกขาดตลาดของอังกฤษอนุมัติให้ไมโครซอฟท์ซื้อกิจการของแอคติวิชัน บลิซซาร์ด เป็นวงเงินถึง 6.9 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งนับเป็นข้อตกลงซื้อธุรกิจเกมครั้งใหญ่ที่สุด
หุ้นของบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นขานรับสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัว โดยหุ้นพีดีดี โฮลดิงส์, หุ้นเจดี.คอม, หุ้นลี ออโต และหุ้นไป่ตู้ ปรับตัวขึ้นราว 2-4% ขณะที่หุ้นอาลีบาบาพุ่งขึ้น 5.0% หลังสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า บริษัทไช่เหนี่ยว (Cainiao) ซึ่งเป็นบริษัทด้านโลจิสติกส์ในเครือนั้นกำลังวางแผนที่จะทำ IPO ที่ตลาดหุ้นฮ่องกงอย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์หน้า