ตลาดหุ้นยุโรปเปิดลบ บอนด์ยีลด์เยอรมนีพุ่งกดดันตลาด

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดลบในวันนี้ (26 ก.ย.) เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นปัจจัยกดดันตลาด โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ในขณะที่หุ้นกลุ่มที่พึ่งพาตลาดจีนเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจในจีน

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 เปิดตลาดที่ระดับ 449.94 จุด ลดลง 0.5 จุด หรือ -0.11%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีเปิดตลาดที่ระดับ 15,330.91 จุด ลดลง 74.58 จุด หรือ -0.48% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดที่ 7,083.86 จุด ลดลง 40.02 จุด หรือ -0.56%

ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลงเกือบ 2% ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ดิ่งลง 1.3% และดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าภายในบ้านปรับตัวลง 1%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีอายุ 10 ปี พุ่งขึ้น 0.06% สู่ระดับ 2.79% หลังจากแตะที่ระดับ 2.811% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปี 2554 โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีเป็นเกณฑ์มาตรฐานของยุโรป

หุ้นบริษัทแบรนด์สินค้าหรูหราที่พึ่งพาตลาดจีนเป็นหลักร่วงลง ท่ามกลางความกังวลที่ยืดเยื้อในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่กำลังประสบภาวะวิกฤต โดยหุ้นแอลวีเอ็มเอช (LVMH) ร่วงลง 1.5% และหุ้นริชมอนด์ (Richemont) ร่วงลง 2.5%

หุ้นริโอ ทินโต (Rio Tinto) บริษัทเหมืองแร่โลหะรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก ร่วงลง 0.4% หลังจากที่ เอเนอร์จี รีสอร์ส ออฟ ออสเตรเลีย (Energy Resources of Australia) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเปิดเผยในวันนี้ว่า ต้นทุนวัสดุจะเพิ่มขึ้น และมีความล่าช้าในการฟื้นฟูเหมืองแรนเจอร์ในดินแดนนอร์เทิร์น เทร์ริทอรีของออสเตรเลีย