ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงเกือบ 300 จุด ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อจากการทะยานขึ้นของราคาน้ำมัน ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ณ เวลา 00.36 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 33,336.46 จุด ลบ 282.42 จุด หรือ 0.84%
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นสวนทางตลาด ขานรับราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นในตลาดโลก
ดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลงเกือบ 400 จุดวานนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ หลังมีการเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ที่ต่ำกว่าคาด ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทถูกกดดันจากการดีดตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
นักลงทุนจับตาความคืบหน้าของสภาคองเกรสในการผ่านร่างงบประมาณชั่วคราว ซึ่งหากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงภายในวันที่ 30 ก.ย. ก็จะทำให้มีการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ หรือชัตดาวน์ในวันที่ 1 ต.ค.
ขณะเดียวกัน ตลาดจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่จะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.5% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 3.3% ในเดือนก.ค.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนส.ค. จากระดับ 0.2% ในเดือนก.ค.
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 3.9% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 4.2% ในเดือนก.ค.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.2% จากระดับ 0.2% เช่นกันในเดือนก.ค.