ตลาดหุ้นยุโรปเปิดบวกเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (29 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราที่ปรับตัวสดใส นอกจากนี้ นักลงทุนจับตารอการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในช่วงสิ้นสุดไตรมาส และยังจับตารอการเปิดเผยข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนในวันนี้ เพื่อพิจารณาทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB)
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 เปิดตลาดที่ระดับ 449.76 จุด เพิ่มขึ้น 1.26 จุด หรือ +0.28%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีเปิดตลาดที่ระดับ 15,394.82 จุด เพิ่มขึ้น 71.32 จุด หรือ +0.46% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดที่ 7,152.30 จุด เพิ่มขึ้น 36.06 จุด หรือ +0.51%
ดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าภายในบ้านพุ่งขึ้น 1.2% และดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดขึ้น 1.2% ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซปรับตัวลง 0.3%
หุ้นอาดิดาส (Adidas) บริษัทสินค้าเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬายักษ์ใหญ่ของเยอรมนี พุ่งขึ้น 6.2% หลังจากคู่แข่งอย่าง ไนกี้ (Nike) ของสหรัฐรายงานผลกำไรเมื่อวานนี้ (28 ก.ย.) ซึ่งมากเกินกว่าที่ประมาณการไว้
หุ้นบริษัทสินค้าหรูหราที่ทำผลงานได้สดใสได้ช่วยดันดัชนี STOXX-600 ในการซื้อขายช่วงแรก โดยหุ้นแอลวีเอ็มเอช (LVMH) และหุ้นแอร์เมส (Hermes) ต่างพุ่งขึ้น 2.3%
อัตราเงินเฟ้อของฝรั่งเศสชะลอตัวลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนก.ย. เนื่องจากราคาอาหารเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ในขณะที่ราคาพลังงานเพิ่มขึ้นมากกว่า โดยข้อมูลนี้สอดคล้องกับแนวโน้มเบื้องต้นของสหภาพยุโรป (EU)
สำนักงานสถิติอินซี (INSEE) ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อของฝรั่งเศสในเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 5.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 5.7% ในเดือนส.ค. และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ 16 คนในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์ที่คาดการณ์ไว้ว่า อาจจะเพิ่มขึ้นที่ระดับ 5.9%
ส่วนราคาอาหารเพิ่มขึ้น 9.6% ในเดือนก.ย. ลดจากระดับ 11.2% ในเดือนส.ค. ในขณะที่ราคาพลังงานพุ่งขึ้น 11.5% ซึ่งมากกว่าระดับ 6.8% ในเดือนส.ค.
ข้อมูลบ่งชี้ว่า ยอดค้าปลีกเดือนส.ค.ของเยอรมนี ลดลง 1.2% เมื่อเทียบกับเดือนก.ค. ตรงกันข้ามกับที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% และเมื่อเทียบเป็นรายปี ยอดค้าปลีกเดือนส.ค. ลดลง 2.3%
ยอดค้าปลีกของเยอรมนีที่ลดลงอย่างไม่คาดคิดนั้นเป็นผลมาจากการที่อัตราเงินเฟ้อที่สูงอย่างต่อเนื่องส่งผลกระทบต่อการบริโภคในประเทศ ซึ่งเยอรมนีเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยูโรโซน