ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 74.15 จุด กังวลดอกเบี้ยสูง-จับตาจ้างงานสหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 3, 2023 06:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (2 ต.ค.) โดยตลาดยังคงถูกกดดันจากแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,433.35 จุด ลดลง 74.15 จุด หรือ -0.22%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,288.39 จุด เพิ่มขึ้น 0.34 จุด หรือ +0.01% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,307.77 จุด เพิ่มขึ้น 88.45 จุด หรือ +0.67%

ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากการที่เฟดส่งสัญญาณในการประชุมเดือนก.ย.ว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานขึ้น เนื่องจากการที่เฟดจะบรรลุเป้าหมายการฉุดเงินเฟ้อให้ลดลงสู่ระดับ 2% นั้น อาจต้องใช้เวลานาน

ขณะที่นางมิเชล โบว์แมน หนึ่งในสมาชิกคณะผู้ว่าการเฟดแสดงความเห็นล่าสุดเมื่อวานนี้ว่า เธอยังคงสนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป หากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อชะลอตัวช้าเกินไป

สภาคองเกรสสหรัฐบรรลุข้อตกลงในการผ่านร่างงบประมาณชั่วคราว และส่งต่อให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามเป็นกฎหมายได้ก่อนกำหนดเส้นตายในช่วงเที่ยงคืนของวันเสาร์ที่ 30 ก.ย.ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งช่วยให้สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล หรือชัตดาวน์

อย่างไรก็ดี นักลงทุนมองว่าการที่สภาคองเกรสผ่านร่างงบประมาณดังกล่าวเป็นเพียงการซื้อเวลาต่อไปอีก 45 วันเท่านั้น เนื่องจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันยังคงมีความขัดแย้งกันในหลายประเด็น ซึ่งรวมถึงการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนการรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดน และการให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน โดยหากสภาคองเกรสไม่สามารถแก้ไขความขัดแย้งดังกล่าวเพื่อให้มีการจัดทำงบประมาณระยะยาวได้ทันวันที่ 17 พ.ย. สหรัฐก็อาจจะเผชิญการชัตดาวน์อีกครั้ง

ดัชนีหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ร่วงลง 4.7% ซึ่งเป็นการดิ่งลงในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2563 หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 4.701% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง หลังจากราคาน้ำมัน WTI ดิ่งลงกว่า 2% เมื่อคืนนี้ เนื่องจากผลกระทบของดอลลาร์ที่แข็งค่า

อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น นำโดยหุ้นอินวิเดีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 2.9% หลังจากโกลด์แมน แซคส์ นำหุ้นอินวิเดียเข้ารวมในลิสต์ของหุ้น "Top Pick" ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของมอร์แกน สแตนลีย์ที่ยังคงให้อินวิเดียเป็นหุ้น "Top Pick" เนื่องจากคาดว่าผลประกอบการของอินวิเดียในช่วง 3-4 ไตรมาสข้างหน้าจะยังคงแข็งแกร่ง เมื่อพิจารณาจากการที่บริษัทจำนวนมากหันมาเพิ่มการใช้จ่ายในการซื้อชิปปัญญาประดิษฐ (AI)

หุ้นเทสลา ปิดตลาดขยับขึ้น 0.6% หลังจากราคาหุ้นร่วงลงในระหว่างวัน ภายหลังจากบริษัทเปิดเผยยอดการผลิตรถยนต์ในไตรมาส 3 ที่ระดับ 430,488 คัน ต่ำกว่าตัวเลขในไตรมาส 2 ซึ่งอยู่ที่ 479,700 คัน ขณะที่ยอดการส่งมอบรถยนต์ในไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 435,059 คัน ต่ำกว่าตัวเลขในไตรมาส 2 ซึ่งอยู่ที่ 466,140 คัน โดยมีสาเหตุจากการปิดปรับปรุงโรงงาน

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 49.0 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2565 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 47.7 จากระดับ 47.6 ในเดือนส.ค.

นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนส.ค. และในวันพุธจะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ย.จาก ADP

ส่วนในวันพฤหัสบดี สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และในวันศุกร์จะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 163,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 187,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนก.ย.จะลดลงสู่ระดับ 3.7% จากระดับ 3.8% ในเดือนส.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ