ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพฤหัสบดี (5 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐและยูโรโซน ขณะที่หุ้นกลุ่มสายการบินปรับตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันลดลง
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 441.31 จุด เพิ่มขึ้น 1.23 จุด หรือ +0.28%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,998.25 จุด เพิ่มขึ้น 1.52 จุด หรือ +0.02%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,070.22 จุด ลดลง 29.70 จุด หรือ -0.20% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,451.54 จุด เพิ่มขึ้น 39.09 จุด หรือ +0.53%
ดัชนี STOXX 600 ฟื้นตัวขึ้นหลังจากปิดร่วงลง 3 วันแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนเมื่อวันพุธ โดยได้แรงหนุนจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 16 ปีก่อนสหรัฐเปิดเผยข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้
บรรดานักลงทุนจะจับตารอดูว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 5.5-5.75% ในเดือนพ.ย.หรือไม่ โดยจากเครื่องมือ FedWatch tool ของ CME บ่งชี้ว่า ขณะนี้มีโอกาส 21.6% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนพ.ย.
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนลดลงด้วย หลังจากพุ่งขึ้นก่อนหน้านี้จากการคาดการณ์ที่ว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไปอีกนาน
ราคาน้ำมันที่ลดลงได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มสายการบิน ส่งผลให้หุ้นกลุ่มเดินทางและนันทนาการ พุ่งขึ้น 1.5% ขณะที่หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซทรงตัว
หุ้นแอร์ฟรานซ์ของฝรั่งเศส พุ่ง 3.8% ขณะที่หุ้นไอเอจี เจ้าของสายการบินบริติช แอร์เวย์ พุ่งขึ้น 2.5%
หุ้นแพนโดรา ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกเครื่องประดับ พุ่งขึ้น 12.0% สู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปีครึ่ง หลังปรับเพิ่มเป้าหมายการขยายตัว