ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะยานกว่า 300 จุด ขณะที่นักลงทุนมองว่าอัตราว่างงานที่สูงกว่าคาดในรายงานจ้างงานนอกภาคเกษตร จะเป็นปัจจัยชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แม้ตัวเลขการจ้างงานพุ่งขึ้นเกินคาด
ณ เวลา 23.02 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 33,449.89 จุด บวก 330.32 จุด หรือ 1%
ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 200 จุด หลุดระดับ 33,000 จุดในการซื้อขายช่วงแรก ท่ามกลางความกังวลที่ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่สูงเกินคาด จะเป็นปัจจัยหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
อย่างไรก็ดี ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นในเวลาต่อมา โดยได้แรงหนุนจากตัวเลขอัตราว่างงานที่สูงเกินคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
นอกจากนี้ ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานที่ต่ำกว่าคาด ได้ช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 336,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 170,000 ตำแหน่ง
ตัวเลขการจ้างงานดังกล่าวนับเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.
ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.8% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงสู่ระดับ 3.7%
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนส.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 227,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้น 187,000 ตำแหน่ง และปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนก.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 236,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้น 157,000 ตำแหน่ง
ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 4.2% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.3%
เมื่อเทียบรายเดือน ค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 0.2% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3%
ทั้งนี้ ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ
วันจันทร์ที่ 9 ต.ค.จะเป็นวันหยุดราชการของสหรัฐ เนื่องในวันโคลัมบัส ซึ่งหน่วยงานของรัฐบาลจะปิดทำการ รวมทั้งโรงเรียนและธนาคารต่างๆ
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะยังคงเปิดทำการในวันจันทร์หน้า ขณะที่ตลาดพันธบัตรปิดทำการ