ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันศุกร์ (6 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มการเงินที่ปรับตัวขึ้น แต่ตลาดยังคงร่วงลงรุนแรงในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากพันธบัตรรัฐบาลที่ปรับตัวขึ้นจากการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นนั้นส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,494.58 จุด เพิ่มขึ้น 43.04 จุด หรือ +0.58%
หุ้นกลุ่มการเงิน อาทิ หุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มประกัน ปรับตัวขึ้น 1.4% และ 2.7% ตามลำดับ
หุ้นอวิว่าซึ่งเป็นบริษัทประกันพุ่งขึ้น 5.3% หลังแหล่งข่าวเปิดเผยว่า อวิว่าเป็นหนึ่งในบริษัทประกันที่สนใจจะเสนอซื้อธุรกิจของบริษัทประกันอาร์เอสเอในอังกฤษ
หุ้นบีพีและหุ้นเชลล์ปรับตัวขึ้น 1.3% และ 1.9% ตามลำดับหลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้น 1.3% เตรียมรับอุปสงค์จากตลาดจีนที่จะเปิดทำการในวันจันทร์หลังวันหยุดยาวในสัปดาห์นี้เนื่องในวันชาติ
หุ้นเมโทร แบงก์ พุ่งขึ้น 20.7% หลังร่วงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพฤหัสบดีจากรายงานที่ว่าธนาคารกำลังสำรวจทางเลือกที่จะเพิ่มทุนถึง 600 ล้านปอนด์ (731.1 ล้านดอลลาร์)
อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 ยังคงลดลงในรอบสัปดาห์นี้ท่ามกลางความวิตกว่า ธนาคารกลางต่าง ๆ จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงต่อไป หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาด
อังกฤษเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า ราคาบ้านในประเทศลดลงในเดือนก.ย.ในอัตราที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งสะท้อนถึงการชะลอตัวของตลาดที่อยู่อาศัยหลังอัตราดอกเบี้ยพุ่งสูงขึ้น