ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงกว่า 200 จุดในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวอิสราเอลถูกโจมตีจากกลุ่มฮามาสซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในปาเลสไตน์ โดยสถานการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะทำให้ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสาตร์มีความรุนแรงมากขึ้น และส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นซึ่งเผชิญกับแรงกดดันอยู่แล้วจากภาวะเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยสูง
ณ เวลา 06.34 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลง 212 หรือ -0.63% แตะที่ระดับ 33,388 จุด
สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสเปิดฉากขึ้นเมื่อกลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอลแบบไม่ทันตั้งตัวในช่วงเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา (7 ต.ค.) โดยระดมยิงจรวดหลายพันลูกจากฉนวนกาซา พร้อมทั้งส่งกองกำลังติดอาวุธหลายสิบคนแทรกซึมเข้าไปโจมตีในหลายเมืองทางตอนใต้ของอิสราเอล และจับตัวประกันไว้หลายคน รวมถึงแรงงานไทยจำนวนหนึ่ง
ทางด้านอิสราเอลตอบโต้กลุ่มฮามาสด้วยการส่งเครื่องบินรบถล่มฉนวนกาซา ส่งผลให้บ้านเรือน มัสยิด และบ้านพักของเจ้าหน้าที่ของกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาได้รับความเสียหายอย่างหนัก ขณะที่นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลประกาศกร้าวว่าจะใช้ปฏิบัติการทางทหารเอาคืนกลุ่มฮามาสอย่างสาสม เนื่องจากการถูกโจมตีจากกลุ่มฮามาสในครั้งนี้รุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประชุมนโยบายการเงินในเดือนพ.ย. โดยสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย. ในวันพุธที่ 11 ต.ค. และจากนั้นจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย. ในวันพฤหัสบดีที่ 12 ต.ค.