ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันจันทร์ (9 ต.ค.) เนื่องจากการปะทะกันทางทหารในตะวันออกกลางกระตุ้นให้นักลงทุนเทขายหุ้นและเข้าลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย อาทิ พันธบัตรและทองคำ ขณะที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นมากกว่า 3%
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 443.79 จุด ลดลง 1.14 จุด หรือ -0.26% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,021.40 จุด ลดลง 38.75 จุด หรือ -0.55%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,128.11 จุด ลดลง 101.66 จุด หรือ -0.67% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,492.21 จุด ลดลง 2.37 จุด หรือ -0.03%
หุ้นลบนำตลาดได้แก่กลุ่มค้าปลีก รวมถึงกลุ่มเดินทางและนันทนาการ
บรรดานักลงทุนทั่วโลกได้เทขายหุ้นเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง เนื่องจากการปะทะกันระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสของปาเลสไตน์ทำให้เกิดความไม่แน่นอนทางการเมืองในตะวันออกกลางและทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับปริมาณน้ำมัน
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 2.9% เนื่องจากราคาน้ำมันทะยานขึ้นมากกว่า 3% สู่ระดับเหนือ 85 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งทำให้ตลาดโดยรวมเผชิญแรงกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น
หุ้นกลุ่มสายการบินปรับตัวลงราว 4-8% เนื่องจากวิตกกับต้นทุนเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น และการระงับเที่ยวบินไปยังกรุงเทลอาวีฟของอิสราเอล
หุ้นบริษัทผลิตอาวุธ อาทิ หุ้นซ้าบ (Saab) ของสวีเดน, หุ้นลีโอนาร์โดของอิตาลี และหุ้นไรน์มีทัลของเยอรมนี พุ่งขึ้น 4-9% จากแนวโน้มความขัดแย้งทางทหารที่ยืดเยื้อในตะวันออกกลาง