ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นในวันอังคาร (10 ต.ค.) โดยปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 1 เดือน เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดลง หลังเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความเห็นสนับสนุนการยุติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเพิ่มความหวังว่าธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ก็จะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเช่นกัน
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,628.21 จุด เพิ่มขึ้น 136.00 จุด หรือ +1.82%
นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนตาแสดงความเห็นเมื่อวานนี้ว่า เฟดไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกต่อไปเพื่อให้เงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย 2% เนื่องจากที่ผ่านมา เฟดได้ใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดเพียงพอแล้ว และผลกระทบอีกมากจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในช่วงที่ผ่านมาก็ยังมาไม่ถึง นอกจากนี้ นายบอสติกยังเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะไม่เผชิญภาวะถดถอย
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดหลายรายระบุว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวของสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นนั้น อาจทำให้เฟดยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้น
สำหรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอังกฤษอายุ 10 ปี ลดลงสู่ระดับ 4.43% จากระดับ 4.47% ในวันจันทร์
อังกฤษเปิดเผยข้อมูลอัตราเงินเฟ้อจากราคาสินค้าอุปโภคบริโภคของอังกฤษปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือนก่อนเข้าสู่เดือนต.ค. ซึ่งบ่งชี้ถึงแรงกดดันด้านราคาที่ลดลง
หุ้นกลุ่มธนาคารซึ่งพุ่งขึ้นอย่างมากได้ช่วยหนุนตลาด รวมถึงหุ้นกลุ่มเดินทางและนันทนาการฟื้นตัวขึ้นด้วย
ส่วนหุ้นรายตัว อาทิ หุ้นยูกอฟ ซึ่งเป็นบริษัทด้านการจัดทำผลสำรวจ พุ่งขึ้น 23.9% หลังเผยกำไรทั้งปีก่อนหักภาษีพุ่งขึ้น 63%