ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี (12 ต.ค.) โดยตลาดลดช่วงบวกลง หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 453.63 จุด เพิ่มขึ้น 0.47 จุด หรือ +0.10%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,104.53 จุด ลดลง 26.68 จุด หรือ -0.37%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,425.03 จุด ลดลง 34.98 จุด หรือ -0.23% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,644.78 จุด เพิ่มขึ้น 24.75 จุด หรือ +0.32%
ดัชนี STOXX 600 ย่อตัวลง หลังแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ในช่วงเช้า โดยถูกถ่วงลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนก.ย.
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น 1.3% ขณะที่หุ้นกลุ่มสื่อบวก 0.9% สู่ระดับสูงสุดครั้งใหม่ในรอบ 22 ปี หลังหุ้นพับลิซิสซึ่งเป็นบริษัทโฆษณาของฝรั่งเศสพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์หลังปรับเพิ่มคาดการณ์ยอดขายและผลกำไรปี 2566
ตลาดยังคงได้แรงหนุนจากหุ้นโนโว นอร์ดิสค์ บริษัทเวชภัณฑ์ของสวีเดน ซึ่งพุ่งขึ้น 4.2% หลังรายงานความสำเร็จในการทดลองยารักษาโรคไตในผู้ป่วยโรคเบาหวาน
ส่วนหุ้นที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย อาทิ หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ปรับตัวลง 0.7% และ 1% ตามลำดับ
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยรายงานการประชุมในเดือนก.ย.บ่งชี้ว่า ผู้กำหนดนโยบายมีความเห็นแตกต่างกันในการลงมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4% แต่ส่งสัญญาณยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย