ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงเกือบ 100 จุด หลังสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกสูงกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ณ เวลา 19.56 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 91 จุด หรือ 0.27% สู่ระดับ 34,043 จุด
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 0.7% ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.3%
ยอดค้าปลีกได้รับแรงหนุนจากยอดขายรถยนต์ และยอดขายของสถานีบริการน้ำมัน
หากไม่รวมยอดขายรถยนต์และน้ำมัน ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.1%
ราคาหุ้นโกลด์แมน แซคส์, แบงก์ ออฟ อเมริกา และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ดีดตัวขึ้นในการซื้อขายก่อนเปิดตลาด ขานรับผลประกอบการที่สดใส
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด มีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งนิวยอร์ก (Economic Club of New York) ในวันพฤหัสบดีนี้
นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวลเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
การกล่าวสุนทรพจน์ดังกล่าว ถือเป็นการแสดงความเห็นของนายพาวเวลเป็นครั้งสุดท้าย ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดจะเริ่มเข้าสู่ช่วงงดเว้นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงิน (Blackout Period) ในวันเสาร์นี้ ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.
ทั้งนี้ กฎระเบียบของเฟดได้ระบุห้ามเจ้าหน้าที่เฟดแสดงความเห็นต่อสาธารณะ หรือให้สัมภาษณ์ในช่วง Blackout Period เกี่ยวกับนโยบายการเงิน โดยเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่สองก่อนที่การประชุม FOMC จะเริ่มขึ้น และสิ้นสุดในวันพฤหัสบดีหลังการประชุม FOMC
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส โดยคาดว่ากองทัพอิสราเอลจะเปิดฉากโจมตีภาคพื้นดินต่อฉนวนกาซาในไม่ช้า