ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้น 60 จุดในช่วงเช้าวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวหลังจากที่ร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง และความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ณ เวลา 06.40 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้น 60 จุด หรือ +0.18% แตะที่ระดับ 33,319 จุด
นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ โดยบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่างอัลฟาเบท, ไมโครซอฟท์ จะเปิดเผยผลประกอบการในวันอังคาร ขณะที่เมตา แพลตฟอร์มส์จะรายงานผลประกอบการในวันพุธ และอะเมซอนจะรายงานผลประกอบการในวันพฤหัสบดี
ส่วนบริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่อย่าง 3M และเจเนอรัล อิเล็กทริก จะรายงานผลประกอบการในวันอังคาร และโบอิ้งจะรายงานผลประกอบการในวันพุธ ขณะที่เจเนอรัล มอเตอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของสหรัฐจะรายงานผลประกอบการในวันพฤหัสบดี
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ย ก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 31 ต.ค. - 1 พ.ย. โดยข้อมูลดังกล่าวรวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนต.ค.จากเอสแอนด์พี โกลบอล, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนต.ค.จากเอสแอนด์พี โกลบอล, ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2566 (ประมาณการเบื้องต้น), ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย., ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) เดือนก.ย., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน