ดัชนี Nasdaq ฟิวเจอร์ร่วงลงกว่า 170 จุดในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากบริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์ เปิดเผยกำไรและรายได้ที่สูงเกินคาดในไตรมาส 3/2566 แต่บริษัทขาดทุนในธุรกิจแผนกเรียลลิตี้ แลบส์ (Reality Labs) นอกจากนี้ เมตายังได้แสดงความกังวลว่า สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางอาจจะส่งผลกระทบต่อรายได้ในไตรมาส 4
ณ เวลา 09.44 น.ตามเวลาไทย ดัชนี Nasdaq ฟิวเจอร์ ร่วงลง 170.75 จุด หรือ -1.18% แตะที่ระดับ 14,307.50 จุด
เมตาซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมเปิดเผยว่า กำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3/2566 อยู่ที่ 4.39 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.63 ดอลลาร์ และรายได้อยู่ที่ 3.415 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.356 หมื่นล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี นางซูซาน ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินกล่าวว่า เมตาได้ขยายกรอบการคาดการณ์รายได้ในไตรมาส 4 ให้กว้างขึ้น เนื่องจากสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสทำให้ไม่สามารถคาดเดาสถานการณ์ในตะวันออกกลางได้ โดยเมตาคาดการณ์ว่า รายได้ในไตรมาส 4 จะอยู่ในช่วง 3.65-4.0 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 3.885 หมื่นล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ ธุรกิจในแผนกเรียลลิตี้ แลบส์ (Reality Labs) ซึ่งเป็นแผนกที่เมตาสร้างขึ้นเพื่อรองรับผลิตภัณฑ์เมตาเวิร์ส มียอดขาดทุนจากการดำเนินงานสูงถึง 3.74 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 และคาดว่าธุรกิจในแผนกนี้จะขาดทุนจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นอีกอย่างมาก
ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นเมตาดิ่งลงกว่า 3% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วงเช้านี้
ส่วนภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กในวันพุธ (25 ต.ค.) ดัชนี S&P500 ปิดร่วงหลุดจากระดับ 4,200 จุด ขณะที่ดัชนี Nasdaq ร่วงลงในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ. เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับรายได้จากธุรกิจคลาวด์ของบริษัทอัลฟาเบทที่ออกมาต่ำกว่าคาดในไตรมาส 3 แม้ว่าบริษัทเปิดเผยกำไรและรายได้สูงกว่าคาดก็ตาม