ตลาดหุ้นยุโรปเปิดลบในวันนี้ (26 ต.ค.) โดยเคลื่อนไหวตามตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวลงเมื่อวันพุธ (25 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2566 ของบริษัทต่าง ๆ และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 เปิดตลาดที่ระดับ 434.34 จุด ลดลง 0.93 จุด หรือ -0.21%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีเปิดตลาดที่ระดับ 14,696.22 จุด ลดลง 195.96 จุด หรือ -1.32% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดที่ 6,835.53 จุด ลดลง 79.54 จุด หรือ -1.15%
หุ้นกลุ่มยานยนต์ปรับตัวลง 3.45% หลังกลุ่มบริษัทยานยนต์เปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง ขณะเดียวกันหุ้นกลุ่มการเดินทางขยับลง 1.7%
หุ้นธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (สแตนชาร์ต) ของอังกฤษ ร่วงลงกว่า 12% ในการซื้อขายช่วงแรกของวันนี้ ก่อนลดช่วงลบเล็กน้อยโดยลดลง 10% หลังสแตนชาร์ตเปิดเผยว่า กำไรลดลงอย่างมากเนื่องจากได้รับผลกระทบเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคอสังหาริมทรัพย์และธนาคารของจีน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้ (26 ต.ค.) โดยตลาดคาดการณ์ว่า ECB จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่กรรมการ ECB อาจจะหารือกันเกี่ยวกับการปรับลดพอร์ตหนี้สินของรัฐบาลซึ่งขณะนี้มีขนาดใหญ่เกินไป ในขณะที่ ECB เองก็ยังต้องควบคุมเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงเกินไปเช่นกัน
ด้านดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (25 ต.ค.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐดีดตัวขึ้นใกล้แตะระดับ 5% ซึ่งทำให้ตลาดวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานาน ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ดิ่งลงอย่างหนัก เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังผลประกอบการของบริษัทอัลฟาเบท
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,035.93 จุด ลดลง 105.45 จุด หรือ -0.32%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,186.77 จุด ลดลง 60.91 จุด หรือ -1.43% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,821.22 จุด ลดลง 318.65 จุด หรือ -2.43%