ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าลดลงในวันนี้ (31 ต.ค.) หลังจีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) ภาคการผลิตที่หดตัวสวนทางคาดการณ์ในเดือนต.ค. ขณะที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นลดช่วงติดลบ หลังธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประกาศนโยบายการเงิน
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าที่ระดับ 30,649.44 จุด ลดลง 47.52 จุด หรือ -0.15%, ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,009.97 จุด ลดลง 11.58 จุด หรือ -0.38% และดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 17,097.51 จุด ลดลง 308.85 จุด หรือ -1.77%
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประกาศปรับนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (YCC) ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยกำหนดเพดานกรอบบนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีที่ระดับ 1.0% พร้อมปรับเพิ่มคาดการณ์แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในปีงบประมาณ 2566 ขึ้นสู่ระดับ 2.8% จากเดิมที่ระดับ 2.5%
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ค่าเงินเยนร่วงลงสู่ระดับ 150 เยนต่อดอลลาร์ หลังจาก BOJ ประกาศเพดานอัตราผลตอบแทนพันธบัตร
นอกจากนี้ BOJ ยังประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้นที่ระดับ -0.1% แม้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของญี่ปุ่นสูงกว่าเป้าหมายที่ระดับ 2% เป็นเดือนที่ 18 ติดต่อกันแล้วก็ตาม
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตหดตัวลงเกินคาดในเดือนต.ค. ซึ่งบดบังข้อมูลเชิงบวกที่บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนเมื่อไม่นานมานี้
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนต.ค.ของจีนปรับตัวลงสู่ระดับ 49.5 จากระดับ 50.2 ในเดือนก.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอาจอยู่ที่ 50.2 โดยดัชนีที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตอยู่ในภาวะหดตัว
ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเดือนต.ค.ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 50.6 จากระดับ 51.7 ในเดือนก.ย.