ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพุธ (1 พ.ย.) นำโดยหุ้นกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มเฮลท์แคร์ ขณะนักลงทุนรอผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะประกาศหลังตลาดยุโรปปิดทำการไปแล้ว
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 436.57 จุด เพิ่มขึ้น 2.91 จุด หรือ +0.67%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,932.63 จุด เพิ่มขึ้น 46.98 จุด หรือ +0.68%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,923.27 จุด เพิ่มขึ้น 112.93 จุด หรือ +0.76% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,342.43 จุด เพิ่มขึ้น 20.71 จุด หรือ +0.28%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน แต่การซื้อขายเบาบางเนื่องจากเป็นวันหยุดของหลายประเทศในวันสมโภชนักบุญ (All Saints' Day) ของศาสนาคริสต์ แต่ตลาดปิดลบในเดือนต.ค.มากที่สุด โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการที่อัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ที่ระดับสูง
บรรดานักลงทุนยังคงมุ่งความสนใจไปที่ข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของยูโรโซนลดลง และเศรษฐกิจเริ่มหดตัวซึ่งเป็นผลกระทบจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง
หุ้นกลุ่มค้าปลีกปรับตัวขึ้น 1.7% โดยได้แรงหนุนจากหุ้นเน็กซ์ของอังกฤษซึ่งพุ่งขึ้น 3.6% หลังปรับเพิ่มแนวโน้มผลกำไรทั้งปีเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 6 เดือน
หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ปรับตัวขึ้น 1.1% โดยหุ้นโนโว นอร์ดิสก์ บวก 1.6% ก่อนเปิดเผยผลประกอบการในวันที่ 2 พ.ย.นี้
แต่การปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนก่อนเฟดเปิดเผยผลการประชุมหลังปิดตลาดยุโรปในวันพุธนั้น ได้สกัดกั้นการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นยุโรป