ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวแคบ ขณะที่นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้เพื่อบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ
ณ เวลา 20.04 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 22 จุด หรือ 0.06% สู่ระดับ 34,159 จุด
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะทำการปรับเวลาซื้อขายหุ้นในตลาด เริ่มต้นจากวันนี้ โดยจะปรับเวลาช้าลง 1 ชั่วโมง หลังจากสิ้นสุดช่วง Daylight Saving Time
ตลาดจะเปลี่ยนแปลงเวลาซื้อขาย จากเดิม 20:30-03:05 น.ตามเวลาไทย เป็น 21:30-04:05 น.ตามเวลาไทย
การปรับเวลาซื้อขายหุ้นดังกล่าวนี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน 2566-10 มีนาคม 2567
ทั้งนี้ ตลาดจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวลในการประชุม 24th Jacques Polak Annual Research Conference ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) โดยนายพาวเวลจะกล่าวสุนทรพจน์ในวันที่ 9 พ.ย.เวลา 14.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือวันที่ 10 พ.ย.เวลา 02.00 น.ตามเวลาไทย ในหัวข้อ "Monetary policy challenges in a global economy" หรือ "ความท้าทายของนโยบายการเงินในเศรษฐกิจโลก"
ข้อมูลจาก Stock Trader?s Almanac ระบุว่า ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทมักปรับตัวขึ้นในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นเดือนที่ดัชนี S&P 500 ปรับตัวดีที่สุดของปี
ทั้งนี้ เดือนพ.ย.นับเป็นจุดเริ่มต้นของการทำสถิติให้ผลตอบแทนดีที่สุดสำหรับการลงทุนช่วง 6 เดือนของดัชนี S&P 500 โดยดัชนีให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 7% ในเดือนพ.ย.-เม.ย. นับตั้งแต่ปี 2493
สถิติล่าสุดบ่งชี้ว่า ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 5.4% ในเดือนพ.ย.2565 ขณะที่ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ดัชนี S&P 500 ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 4.1% ในเดือนพ.ย.
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทมักปรับตัวขึ้นในเดือนพ.ย. ก่อนที่จะพุ่งขึ้นต่อเนื่องในเดือนธ.ค.จากปรากฎการณ์ "ซานต้า แรลลี่"
ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นยังได้รับปัจจัยบวกเพิ่มเติมในเดือนพ.ย.ปีนี้ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า เฟดได้ยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว หลังจากที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 11 ครั้งนับตั้งแต่ที่เริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.2565 ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 5.25%
นักลงทุนเทน้ำหนักในการคาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่ต่ำกว่าคาด และคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพ.ค.2567 เร็วขึ้นจากเดิมที่คาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.2567
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 90.2% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 12-13 ธ.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนคาดว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนม.ค.และเดือนมี.ค.ของปี 2567 ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนพ.ค. หลังจากก่อนหน้านี้คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.