ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันจันทร์ (6 พ.ย.) จากแรงขายทำกำไรหลังพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ร่วงลงนำตลาด
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 443.52 จุด ลดลง 0.72 จุด หรือ -0.16%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,013.73 จุด ลดลง 33.77 จุด หรือ -0.48%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,135.97 จุด ลดลง 53.28 จุด หรือ -0.35% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,417.76 จุด เพิ่มขึ้น 0.03 จุด หรือ +0.0004%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไร หลังพุ่งขึ้นมากกว่า 3% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนขานรับการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนและสัญญาณยุติการคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่าง ๆ
ข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่า อัตราการชะลอตัวของกิจกรรมทางธุรกิจในยูโรโซนเพิ่มขึ้นในเดือนต.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่า มีโอกาสมากขึ้นที่จะเกิดภาวะถดถอยในยูโรโซน
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ร่วงลง 2.9% หลังพุ่งขึ้นอย่างมากในสัปดาห์ที่ผ่านมา
หุ้นเทเลคอม อิตาเลีย ร่วง 3.4% หลังพุ่งสูงถึง 5.4% เนื่องจากบอร์ดของบริษัทอนุมัติขายเครือข่ายโทรศัพท์พื้นฐานให้กับบริษัทเคเคอาร์ของสหรัฐ ซึ่งทำให้เกิดความขัดแย้งกับวิวองดิซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่
หุ้นไรอันแอร์พุ่ง 5.3% สวนทางตลาด หลังคาดว่าบริษัทจะมีกำไรทั้งปีสูงเป็นประวัติการณ์และสัญญาที่จะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น ซึ่งได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเดินทางและนันทนาการบวก 0.6%
บรรดานักลงทุนจะจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิตและยอดค้าปลีกของยูโรโซนประจำเดือนก.ย.ในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แรงกดดันด้านราคา และรอดูฟิทช์ เรตติ้งส์ประกาศผลการทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีในวันศุกร์นี้ด้วย