ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวแคบ ขณะที่นักลงทุนจับตาเงินเฟ้อสหรัฐ รวมทั้งการที่สหรัฐอาจเผชิญการปิดหน่วยงานของรัฐบาล หรือชัตดาวน์ในสัปดาห์นี้
ณ เวลา 18.46 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 25 จุด หรือ 0.07% สู่ระดับ 34,313 จุด
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนต.ค.ในวันพรุ่งนี้
ทั้งนี้ ผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.3% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 3.7% ในเดือนก.ย.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี CPI ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนต.ค. จากระดับ 0.4% ในเดือนก.ย.
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 4.1% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก.ย.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก.ย.
นายปีเตอร์ ออพเพนไฮเมอร์ นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า เงินเฟ้อของสหรัฐมีแนวโน้มผ่านจุดสูงสุดแล้ว แต่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทยังคงมีช่วงขาขึ้นที่จำกัด
"มีทั้งข่าวดีและข่าวร้ายสำหรับนักลงทุนขณะใกล้สิ้นปี ข่าวดีก็คือ เงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยดูเหมือนผ่านจุดสูงสุดแล้ว และนักเศรษฐศาสตร์ของเรายังคงคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป หรือซอฟต์แลนดิ้ง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับตลาดหุ้น โดยช่วยลดความเสี่ยงในช่วงขาลงสำหรับนักลงทุน"
"อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นยังคงมีช่วงบวกที่จำกัด โดยคาดว่าบริษัทจดทะเบียนจะมีการขยายตัวของกำไรเพียงเล็กน้อยไปจนถึงปี 2567 และมีสิ่งบ่งชี้ว่าราคาหุ้นในตลาดได้ซึมซับรับการคาดการณ์ภาวะซอฟต์แลนดิ้งของเศรษฐกิจสหรัฐแล้ว" นายออพเพนไฮเมอร์กล่าว
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาสภาคองเกรสสหรัฐ ซึ่งหากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันไม่สามารถเจรจาแก้ไขความขัดแย้งเพื่อให้มีการจัดทำงบประมาณระยะยาวได้ทันวันศุกร์ที่ 17 พ.ย. สหรัฐก็จะเผชิญการชัตดาวน์อีกครั้ง
ขณะเดียวกัน ตลาดถูกกดดันจากการที่มูดี้ส์ประกาศปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐสู่ "เชิงลบ" จาก "มีเสถียรภาพ" ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการขาดดุลการคลังในระดับสูง