ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันจันทร์ (13 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนรอดูการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้เพื่อบ่งชี้แนวโน้มเศรษฐกิจและนโยบายการเงินของธนาคารกลางรายใหญ่
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 446.62 จุด เพิ่มขึ้น 3.31 จุด หรือ +0.75% โดยฟื้นตัวขึ้นหลังจากร่วงลงหนักสุดในรอบ 3 สัปดาห์ถึง 1% เมื่อวันศุกร์
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,087.06 จุด เพิ่มขึ้น 42.02 จุด หรือ +0.60%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,345.00 จุด เพิ่มขึ้น 110.61 จุด หรือ +0.73% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,425.83 จุด เพิ่มขึ้น 65.28 จุด หรือ +0.89%
หุ้นกลุ่มธนาคารของอิตาลีทะยานขึ้น 2.8% โดยหุ้นธนาคารมอนเต เดย ปาสชี (Monte dei Paschi) พุ่งขึ้น 8.6% หลังฟิทช์ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารขึ้นสู่ระดับ BB โดยมีแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือที่มีเสถียรภาพ และดอยซ์แบงก์ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือเป็น "ซื้อ" จาก "ถือ"
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น 1.3% หลังหุ้นซีเมนส์ เอเนอร์จี พุ่งขึ้น 6.0% เนื่องจากแหล่งข่าวเปิดเผยว่า บริษัทจะเปิดเผยข้อตกลงโครงการมูลค่าหลายพันล้านยูโรที่ได้รับการค้ำประกันโดยรัฐบาลเยอรมนีในวันพุธนี้
หุ้นโนโว นอร์ดิสค์ บวก 0.3% หลังจากที่ข้อมูลแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ในการปกป้องหัวใจของยา Wegovy นอกเหนือไปจากการช่วยลดน้ำหนัก
บรรดานักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐและยูโรโซนในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ นักลงทุนจะจับตาการประชุมระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในสัปดาห์นี้ในการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ที่ซานฟรานซิสโก
ตลาดดูเหมือนจะมองข้ามความเสี่ยงที่หน่วยงานสหรัฐอาจจะต้องปิดทำการหรือชัตดาวน์ภายในสิ้นสัปดาห์นี้ หากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันไม่สามารถเจรจาแก้ไขความขัดแย้งเพื่อให้มีการจัดทำงบประมาณได้ทันในวันศุกร์ที่ 17 พ.ย. และมูดี้ส์ได้ปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาจากมี "เสถียรภาพ" เป็น "เชิงลบ"