ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันอังคาร (14 พ.ย.) ขานรับข้อมูลที่บ่งชี้ว่า เงินเฟ้อของสหรัฐชะลอตัวลงซึ่งเพิ่มความหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และอาจเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงินในไม่ช้านี้
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 452.60 จุด เพิ่มขึ้น 5.98 จุด หรือ +1.34%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,185.68 จุด เพิ่มขึ้น 98.62 จุด หรือ +1.39%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,614.43 จุด เพิ่มขึ้น 269.43 จุด หรือ +1.76% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,440.47 จุด เพิ่มขึ้น 14.64 จุด หรือ +0.20%
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยพุ่งขึ้น 7.0% และปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.
ข้อมูลบ่งชี้ว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.2% ในเดือนต.ค. ชะลอลงจากการเพิ่มขึ้น 3.7% ในเดือนก.ย. และต่ำกว่าระดับคาดการณ์ที่ 3.3% ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานต่ำกว่าคาดการณ์ทั้งเมื่อเทียบเป็นรายเดือนและรายปี
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนร่วงลงอย่างรุนแรงหลังการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของอิตาลีร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน
นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงปีหน้า และจะต้องรอจนถึงอย่างน้อยเดือนก.ค.ที่ ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นครั้งแรก
ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ของมอร์แกน สแตนลีย์คาดว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก 0.25% ในเดือนมิ.ย.
บรรดานักลงทุนปรับตัวรับข้อมูลเบื้องต้นที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนหดตัวลงในไตรมาส 3 ซึ่งตอกย้ำการคาดการณ์เกี่ยวกับภาวะถดถอยทางเทคนิค หากเศรษฐกิจไตรมาส 4 อ่อนแอลง
หุ้นกลุ่มทรัพยากร พุ่ง 3.7% หลังหุ้นเกล็นคอร์ ทะยาน 4.5% จากข้อตกลงซื้อหุ้น 77% ในบริษัทเทค รีซอร์สเซสซึ่งเป็นธุรกิจถ่านหินในการผลิตเหล็กของแคนาดาเป็นวงเงิน 6.93 พันล้านดอลลาร์
การเปิดเผยแนวโน้มผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนช่วยหนุนตลาดด้วย โดยหุ้นเดลิเวอรี ฮีโร ซึ่งเป็นบริษัทสั่งอาหารออนไลน์ของเยอรมนี พุ่ง 10.4% หลังปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการทั้งปี
หุ้นอินฟอร์มา ซึ่งให้เป็นบริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับข้อมูลและงานอีเวนต์ของอังกฤษ พุ่ง 5.3% หลังปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้และผลกำไรทั้งปี