ตลาดหุ้นเอเชียเปิดภาคเช้าบวกในวันนี้ (15 พ.ย.) โดยเคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นเมื่อวานนี้ (14 พ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดการณ์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดภาคเช้าที่ระดับ 33,112.31 จุด พุ่งขึ้น 416.38 จุด หรือ +1.27% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 17,836.65 จุด เพิ่มขึ้น 439.79 จุด หรือ +2.52% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,077.03 จุด เพิ่มขึ้น 20.96 จุด หรือ +0.68%
ญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า เศรษฐกิจในไตรมาส 3 หดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาส โดยถูกกดดันจากอุปสงค์โลกที่ชะลอตัวลงและเงินเฟ้อภายในประเทศที่พุ่งสูงขึ้น โดยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของญี่ปุ่น ปรับตัวลดลง 2.1% ในไตรมาส 3 เทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่นักวิเคราะห์ในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่าจะลดลง 0.6%
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของจีน โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค., ยอดค้าปลีกเดือนต.ค., อัตราว่างงานเดือนต.ค. และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนต.ค.ในวันนี้
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันอังคาร (14 พ.ย.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ทำสถิติทะยานขึ้นในวันเดียวที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย.ปีนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,827.70 จุด เพิ่มขึ้น 489.83 จุด หรือ +1.43%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,495.70 จุด เพิ่มขึ้น 84.15 จุด หรือ +1.91% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,094.38 จุด เพิ่มขึ้น 326.64 จุด หรือ +2.37%
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 3.2% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.3% จากระดับ 3.7% ในเดือนก.ย. ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 4.0% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.1% จากระดับ 4.1% ในเดือนก.ย.