ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นเกือบ 100 จุด บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นต่อเนื่องจากวานนี้ ขณะที่นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ต่ำกว่าคาด
ณ เวลา 18.06 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 97 จุด หรือ 0.28% สู่ระดับ 34,984 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวานนี้พุ่งขึ้นเกือบ 500 จุด หลังการเปิดเผยตัวเลข CPI ต่ำกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าดัชนี PPI ชะลอตัวในเดือนต.ค. เช่นเดียวกับดัชนี CPI
ทั้งนี้ ผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี PPI ทั่วไป (Headline PPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 1.9% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.2% ในเดือนก.ย.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PPI ทั่วไปปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนต.ค. จากระดับ 0.5% ในเดือนก.ย.
ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 2.7% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.7% ในเดือนก.ย.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PPI พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค. จากระดับ 0.3% ในเดือนก.ย.
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในสภาคองเกรสเกี่ยวกับการผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล หรือชัตดาวน์
ล่าสุด ร่างกฎหมายดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐแล้ว และเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภา ก่อนที่จะส่งต่อให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามเป็นกฎหมายภายในวันศุกร์ที่ 17 พ.ย.เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะชัตดาวน์