ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะยานกว่า 100 จุด บ่งชี้การฟื้นตัวของตลาดหุ้นวอลล์สตรีท หลังจากร่วงลงวานนี้
ณ เวลา 20.19 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 113 จุด หรือ 0.32% สู่ระดับ 35,132 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวานนี้ร่วงลง 0.13% ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทซิสโก้ ซิสเต็มส์ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐ และบริษัทวอลมาร์ท ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกใหญ่ที่สุดในโลก
อย่างไรก็ดี ตลาดได้แรงหนุนในวันนี้จากการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และการที่สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล หรือชัตดาวน์
นอกจากนี้ นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ต่ำกว่าคาด
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนธ.ค.2566, ม.ค.2567 และมี.ค.2567 ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนพ.ค.2567
ขณะเดียวกัน ตลาดได้รับปัจจัยบวกจากการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ได้ลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวแล้ว ส่งผลให้สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล หรือชัตดาวน์
การลงนามของปธน.ไบเดนมีขึ้น หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาให้การอนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าวก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ดี งบประมาณดังกล่าวถือเป็นการซื้อเวลาเพียงชั่วคราว ก่อนที่สหรัฐจะเผชิญความเสี่ยงจากการชัตดาวน์ครั้งใหม่ในปี 2567 ในเดือนม.ค.และก.พ.
ทั้งนี้ งบประมาณที่ปธน.ไบเดนลงนามในวันนี้ ไม่ใช่งบประมาณของทั้งปีงบประมาณ 2567 โดยจะเป็นงบประมาณจนถึงวันที่ 19 ม.ค.2567 สำหรับการใช้จ่ายของรัฐบาลที่มีความสำคัญ ซึ่งรวมถึงการก่อสร้างในโครงการทางทหาร กิจการทหารผ่านศึก การคมนาคม การเคหะ และสำหรับกระทรวงพลังงาน ส่วนการใช้จ่ายนอกเหนือจากนี้จะมีงบประมาณรองรับจนถึงวันที่ 2 ก.พ.2567