ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันศุกร์ (17 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มเฮลท์แคร์ และตลาดยังปิดปรับตัวขึ้นในรอบสัปดาห์นี้ท่ามกลางความเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางต่าง ๆ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกในปีหน้า
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 455.82 จุด เพิ่มขึ้น 4.55 จุด หรือ +1.01% และปรับตัวขึ้น 2.8% ในรอบสัปดาห์นี้ โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลง
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,233.91 จุด เพิ่มขึ้น 65.51 จุด หรือ +0.91%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,919.16 จุด เพิ่มขึ้น 132.55 จุด หรือ +0.84% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,504.25 จุด เพิ่มขึ้น 93.28 จุด หรือ +1.26%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีลดแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 เดือน หลังตลาดปรับตัวรับโอกาสที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงรวม 1% ภายในสิ้นปี 2567
ข้อมูลใหม่ยืนยันว่า เงินเฟ้อในยูโรโซนเมื่อเทียบเป็นรายปีชะลอตัวลงอย่างรุนแรงในเดือนต.ค.
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับผลกระทบของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมาที่จะมีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยพุ่งขึ้น 1.7%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นตามราคาทองแดง หลังจากดอลลาร์อ่อนค่าลง
หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ปรับตัวขึ้น 1.2% โดยหุ้นแอสตร้าเซนเนก้า, หุ้นโนโว นอร์ดิสค์ และหุ้นซาโนฟี ปรับตัวขึ้น 0.9-2.3%
หุ้นยูบีเอส พุ่งขึ้น 3% ซึ่งได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มบริการทางการเงิน ขณะที่กลุ่มธนาคารบวก 1.4%