ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันจันทร์ (20 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากความหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และตลาดปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่พุ่งขึ้นเกือบ 3%
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 456.26 จุด เพิ่มขึ้น 0.44 จุด หรือ +0.10%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,246.93 จุด เพิ่มขึ้น 13.02 จุด จุด +0.18%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,901.33 จุด ลดลง 17.83 จุด หรือ -0.11% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,496.36 จุด ลดลง 7.89 จุด หรือ -0.11%
นักลงทุนเริ่มปรับตัวรับการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 1% ในปีหน้า โดยจะปรับลดครั้งแรกอย่างเร็วที่สุดในเดือนเม.ย.
หุ้นกลุ่มพลังงานนำตลาดปรับตัวขึ้น โดยเพิ่มขึ้น 1.3% ตามราคาน้ำมันดิบที่แข็งแกร่ง ขณะที่คาดว่ากลุ่มโอเปกพลัสจะปรับลดการผลิตลงอีกในช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้า
หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ ปรับตัวลง 0.4% หลังหุ้นบริษัทไบเออร์ ร่วง 18.0% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 14 ปี หลังยกเลิกการทดลองขั้นสุดท้ายของยาตัวใหม่ที่ใช้ในการต้านการแข็งตัวของหลอดเลือด
นอกจากนี้ บริษัทยังถูกสั่งให้จ่ายเงิน 1.56 พันล้านดอลลาร์ในคดีฟ้องร้องล่าสุดในสหรัฐเกี่ยวกับยาฆ่าวัชพืชราวด์อัพด้วย ข้อมูลจากยูโรโซนบ่งชี้ว่า ดัชนีราคาผู้ผลิตลดลงตามคาดในเดือนต.ค. ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาลง หลังร่วงหนักเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.ย.
หุ้นกลุ่มธนาคารของอิตาลีปรับตัวขึ้น หลังมูดี้ส์ปรับเพิ่มแนวโน้มความน่าเชื่อถือของอิตาลี ซึ่งเป็นแรงหนุนให้กับรัฐบาลของจอร์เจีย เมโลนี นายกรัฐมนตรีของอิตาลี
หุ้นดิปโลมาซึ่งให้บริการและผลิตภัณฑ์ทางเทคนิคของอังกฤษ พุ่ง 11.2% หลังคาดการณ์ผลกำไรทั้งปีแข็งแกร่ง