ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผสมผสานในวันนี้ (23 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก แม้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อวันอังคาร (22 พ.ย.) ก่อนถึงวันหยุดเนื่องในเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า
ดัชนีฮั่งเส็งปิดภาคเช้าที่ระดับ 17,669.84 จุด ลดลง 64.76 จุด หรือ -0.37% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,048.82 จุด เพิ่มขึ้น 5.21 จุด หรือ +0.17%
ดัชนี S&P/ASX 200 ของตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับลดลง 0.5% ซึ่งเป็นการปรับลงติดต่อกันวันที่ 2
หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์รายงานว่า ตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวลงหลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน รวมทั้งรายงานการประชุมของเฟดที่ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก หากเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น
ตัวเลขประมาณการเบื้องต้นจาก Judo Bank แสดงให้เห็นว่า กิจกรรมภาคธุรกิจของออสเตรเลียหดตัวเร็วขึ้นในเดือนพ.ย. โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการของออสเตรเลียลดลงสู่ระดับ 46.4 ในเดือนพ.ย. ซึ่งลดลงจาก 47.6 ในเดือนต.ค. โดยตัวเลขต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมธุรกิจอยู่ในภาวะหดตัว
ดัชนี Kospi ของตลาดหุ้นเกาหลีใต้พลิกมาลบที่ 0.13% หลังปรับขึ้นในการซื้อขายช่วงแรก ส่วนดัชนี Kosdaq บวก 0.45%
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ (23 พ.ย.) เนื่องในวันขอบคุณแรงงาน
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (22 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีมุมมองบวกว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว และเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,273.03 จุด เพิ่มขึ้น 184.74 จุด หรือ +0.53%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,556.62 จุด เพิ่มขึ้น 18.43 จุด หรือ +0.41% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,265.86 จุด เพิ่มขึ้น 65.88 จุด หรือ +0.46%