ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันศุกร์ (24 พ.ย.) และปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มสื่อและกลุ่มค้าปลีก ขณะที่นักลงทุนประเมินข้อมูลจากเยอรมนีเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 459.98 จุด เพิ่มขึ้น 1.51 จุด หรือ +0.33% และปรับตัวขึ้น 0.9% ในรอบสัปดาห์นี้
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,292.80 จุด เพิ่มขึ้น 14.87 จุด หรือ +0.20%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,029.49 จุด เพิ่มขึ้น 34.76 จุด หรือ +0.22% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,488.20 จุด เพิ่มขึ้น 4.62 จุด หรือ +0.06%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยในรอบสัปดาห์นี้ หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลง ขณะที่กลุ่มสื่อและกลุ่มค้าปลีกปรับตัวขึ้น
ส่วนในวันศุกร์นั้น หุ้นกลุ่มเคมีภัณฑ์บวก 0.9% โดยหุ้นบีเอเอสเอฟ (BASF) ของเยอรมนี พุ่งขึ้น 1.8% หลังบลูมเบิร์ก นิวส์รายงานว่า บริษัทอาบู ดาบี เนชันแนล ออยล์ โค กำลังสำรวจความเป็นไปได้ในการซื้อกิจการวินเทอร์เชลล์ เดียของ BASF
หุ้นฟอร์เวียและหุ้นคอนติเนนทอล ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ พุ่งขึ้น 2.5% และ 2.0% ตามลำดับ หลังบาร์เคลย์ส ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนหุ้นสองตัวนี้
หุ้นอีโวลูชันซึ่งเป็นบริษัทเกมออนไลน์ของสวีเดน พุ่งขึ้น 2.0% หลังประกาศโครงการซื้อหุ้นคืนครั้งใหม่
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการทำข้อตกลงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสเพื่อหยุดยิงและปล่อยตัวประกันด้วย
ด้านเยอรมนีเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหดตัวลงเล็กน้อยในไตรมาส 3/2566 ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ขั้นต้นที่หดตัวลง 0.1% ขณะที่ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีปรับตัวดีขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนพ.ย.