ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าลบในวันนี้ (27 พ.ย.) โดยตลาดถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นบริษัทอสังหาริมทรัพย์จีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง ขณะที่ นักลงทุนรอการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญจากกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เช่น จีน ส่วนเงินเฟ้อภาคบริการของญี่ปุ่นพุ่งสู่ระดับสูงสุดในรอบ 45 เดือน
ดัชนีฮั่งเส็งปิดภาคเช้าที่ระดับ 17,385.08 จุด ลดลง 174.34 จุด หรือ -0.99%, ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 33,479.71 จุด ลดลง 145.82 จุด หรือ -0.43% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,017.92 จุด ลดลง 23.05 จุด หรือ -0.76%
หุ้นหลงหู กรุ๊ป หุ้นซูแนค และหุ้นไชน่า ว่านเคอ ร่วงลงประมาณ 4% - 8% หลังจากมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจีนได้เข้าตรวจสอบธนาคารจงจื๋อ เอนเตอร์ไพรส์ ซึ่งเป็นธนาคารเงาที่มีปัญหาหนี้สินจำนวนมาก
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ซึ่งระบุว่า กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนก.ย.และส.ค.ที่ขยายตัวแข็งแกร่งถึง 11.9% และ 17.2% ตามลำดับ
ญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ภาคบริการของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้น 2.3% ในเดือนต.ค.สู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2563 และสูงกว่าในเดือนก.ย.ที่ 2%
จีนมีกำหนดเปิดเผยตัวเลขกิจกรรมภาคการผลิตอย่างเป็นทางการสำหรับเดือนพ.ย.ในวันพฤหัสบดีที่ 30 พ.ย.และไฉซินจะเปิดเผยตัวเลขผลสำรวจกิจกรรมภาคการผลิตสำหรับเดือนพ.ย.ในวันศุกร์ที่ 1 ธ.ค.
ออสเตรเลียจะเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อเดือนต.ค.ในวันพุธที่ 29 พ.ย. ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางออสเตรเลีย ส่วนอินเดียจะเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) สำหรับไตรมาสระหว่างเดือนก.ค. ? ก.ย.ในวันพฤหัสบดีที่ 30 พ.ย.