ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันจันทร์ (27 พ.ย.) โดยหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ถ่วงตลาดลง ขณะที่หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ปรับตัวขึ้นได้ช่วยพยุงตลาด
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 458.41 จุด ลดลง 1.57 จุด หรือ -0.34%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,265.49 จุด ลดลง 27.31 จุด หรือ -0.37%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,966.37 จุด ลดลง 63.12 จุด หรือ -0.39% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,460.70 จุด ลดลง 27.50 จุด หรือ -0.37%
หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ ปรับตัวลง 0.6% หลังหุ้นอีโวเทค และหุ้นแอสตร้าเซนเนก้า ร่วงลง 3.2% และ 2.0% ตามลำดับ หลังบริษัทเจฟเฟอรีส์ปรับลดราคาเป้าหมายหุ้นทั้งสองตัวดังกล่าว ขณะที่หุ้นไบเออร์ร่วงลง 3.0% หลังบริษัทเบเรนเบิร์กปรับลดราคาเป้าหมาย
แต่หุ้นไรต์มูฟ ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการด้านการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ทางออนไลน์ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 4.8% หลังปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้เฉลี่ยต่อปีจากผู้ประกาศซื้อขายบ้าน
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวขึ้น 1.2%
ตลาดถูกกดดันจากความเห็นของนางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ระบุว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อของยูโรโซนกำลังลดลงตามคาด แต่การขยายตัวของค่าแรงยังคงแข็งแกร่งและแนวโน้มยังไม่แน่นอน ดังนั้นการต่อสู้ของ ECB เพื่อควบคุมเงินเฟ้อนั้น จึงยังไม่จบ
นอกจากนี้ ปัจจัยที่ถ่วงตลาดทั่วโลกยังรวมถึงข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ผลกำไรของบริษัทด้านอุตสาหกรรมของจีนขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงในเดือนต.ค. ซึ่งทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนซึ่งใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก
บรรดานักลงทุนจะจับตาการเปิดเผยข้อมูลอัตราเงินเฟ้อจากเยอรมนีและประเทศอื่น ๆ อย่างใกล้ชิดในสัปดาห์นี้ รวมถึงการแสดงสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันศุกร์, รายงาน GDP ไตรมาส 3 และรายงานข้อมูลการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐ