ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพฤหัสบดี (30 พ.ย.) แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือน หลังการเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า เงินเฟ้อในสหรัฐและยุโรปลดลง ซึ่งเพิ่มความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 461.61 จุด เพิ่มขึ้น 2.51 จุด หรือ +0.55%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,310.77 จุด เพิ่มขึ้น 43.13 จุด หรือ +0.59%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,215.43 จุด เพิ่มขึ้น 48.98 จุด หรือ +0.30% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,453.75 จุด เพิ่มขึ้น 30.29 จุด หรือ +0.41%
ดัชนี STOXX600 ปิดตลาดในเดือนพ.ย.พุ่งขึ้นรายเดือนมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. โดยหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มเทคโนโลยีที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย พุ่งขึ้น 14.7% ในเดือนพ.ย.
ข้อมูลของยูโรโซนบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อชะลอลงแตะ 2.4% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนพ.ย.จาก 2.9% ในเดือนต.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่คาดว่าอาจลดลงสู่ 2.7% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อรายปีของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2564
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่ายอดค้าปลีกของเยอรมนีปรับตัวขึ้นมากกว่าคาดในเดือนต.ค. ขณะที่จำนวนคนว่างงานในเยอรมนีเพิ่มขึ้นตามคาดในเดือนพ.ย.
บรรดาเทรดเดอร์ในตลาดตราสารอนุพันธ์ปรับตัวรับการคาดการณ์ที่ว่า จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็นครั้งแรกในเดือนเม.ย. ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนปรับตัวลงรายเดือนมากที่สุดในรอบ 1 ปี
หุ้นกลุ่มพลังงานบวก 1.0% เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นจากการคาดการณ์เกี่ยวกับผลการประชุมโอเปกพลัส