ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันศุกร์ (1 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ และการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนลดลงท่ามกลางความหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 466.20 จุด เพิ่มขึ้น 4.59 จุด หรือ -0.99%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,346.15 จุด เพิ่มขึ้น 35.38 จุด หรือ +0.48% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,397.52 จุด เพิ่มขึ้น 182.09 จุด หรือ +1.12% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,529.35 จุด เพิ่มขึ้น 75.60 จุด หรือ +1.01%
ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. หลังปรับตัวขึ้น 6.4% ในเดือนพ.ย. และปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ปิดบวกเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนปรับตัวลง หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตอ่อนแอและความเห็นของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สนับสนุนความหวังที่ว่า อาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในไตรมาสแรกของปีหน้า ขณะที่โกลด์แมน แซคส์คาดว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในไตรมาส 2 ของปีหน้า
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งนำตลาดในวันศุกร์ โดยพุ่ง 4.2% ตามทิศทางราคาโลหะซึ่งได้แรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และข้อมูลเศรษฐกิจเชิงบวกจากจีนช่วยหนุนราคาโลหะด้วย
หุ้นแองโกลอเมริกัน พุ่ง 7.9% และหุ้นแอนโทฟากัสตา พุ่ง 6.2% หลังยูบีเอสปรับเพิ่มคำแนะนำลงทุนจาก "คงน้ำหนักการลงทุน" เป็น "ซื้อ"