ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันจันทร์ (4 ธ.ค.) โดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และพลังงานถ่วงตลาดลง หลังจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลง
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 465.78 จุด ลดลง 0.42 จุด หรือ -0.1%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,332.59 จุด ลดลง 13.56 จุด หรือ -0.18%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,404.76 จุด เพิ่มขึ้น 7.24 จุด หรือ +0.04% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,512.96 จุด ลดลง 16.39 จุด หรือ -0.22%
ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวลง หลังแตะระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 4 เดือนในการซื้อขายช่วงเช้า
หุ้นกลุ่มเหมืองร่วงลง 2.4% เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์ถ่วงราคาทองแดงลง ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานลดลง 1.6% หลังราคาน้ำมันร่วงลงท่ามกลางแรงกดดันจากการตัดสินใจของโอเปกพลัสเกี่ยวกับการปรับลดปริมาณน้ำมัน และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันเชื้อเพลิงทั่วโลก
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลง 0.8% โดยหุ้นเอเอสเอ็ม อินเตอร์เนชันแนล ร่วง 6.4%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของกรีซแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน หลังจากที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือฟิทช์ได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซเป็นระดับลงทุน
บรรดานักลงทุนจะจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของยูโรโซนในสัปดาห์นี้ อาทิ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของยูโรโซน, ดัชนีราคาผู้ผลิต, ราคาขายปลีก และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เพื่อประเมินเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ นักลงทุนจะรอการเปิดเผยรายงานการจ้างงานเดือนพ.ย.ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ หลังจากความเห็นของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาได้ตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายแตะระดับสูงสุดแล้ว