ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันอังคาร (5 ธ.ค.) โดยตลาดหุ้นเยอรมนีปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ หลังได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มประกัน
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 467.62 จุด เพิ่มขึ้น 1.84 จุด หรือ +0.40%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,386.99 จุด เพิ่มขึ้น 54.40 จุด หรือ +0.74%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,533.11 จุด เพิ่มขึ้น 128.35 จุด หรือ +0.78% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,489.84 จุด ลดลง 23.12 จุด หรือ -0.31%
ตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุนหลังนางอิซาเบล ชนาเบล กรรมการบริหารของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ระบุว่า ไม่มีความเป็นไปได้ที่ ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก หลังจากที่เงินเฟ้อลดลงมากเกินคาด และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดลงอย่างมาก
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยนำตลาดปรับตัวขึ้น โดยเพิ่มขึ้น 1.8%
ตลาดหุ้นเยอรมนีปรับตัวขึ้นโดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของหุ้นอลิอันซ์ และหุ้นเดมเลอร์ ทรัก โฮลดิง
หุ้นอีริคสันของสวีเดน พุ่งขึ้น 6.1% หลังบริษัทเอทีแอนด์ทีเลือกอีริคสันเพื่อสร้างเครือข่ายโทรคมนาคม ส่งผลให้หุ้นโนเกียซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่งร่วงลง 5.9%
แต่หุ้นเอชเอสบีซีและหุ้นพรูเดนเชียลของอังกฤษซึ่งพึ่งพาตลาดจีนนั้นร่วงลง หลังมูดี้ส์ปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของจีน
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวลงด้วย 0.9% ตามราคาโลหะที่ลดลงจากความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์จากจีน
หุ้นบาร์เคลย์ส ร่วง 2.5% หลังกาตาร์ โฮลดิงซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่เทขายหุ้นบาร์เคลย์สเป็นมูลค่าราว 510 ล้านปอนด์ (644 ล้านดอลลาร์)