ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพุธ (6 ธ.ค.) โดยตลาดหุ้นเยอรมนีปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่อีกครั้ง หลังการเปิดเผยข้อมูลยอดสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมที่น่าผิดหวังของเยอรมนีได้สนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีหน้า
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 470.06 จุด เพิ่มขึ้น 2.44 จุด หรือ +0.52%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,435.99 จุด เพิ่มขึ้น 49.00 จุด หรือ +0.66%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,656.44 จุด เพิ่มขึ้น 123.33 จุด หรือ +0.75% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,515.38 จุด เพิ่มขึ้น 25.54 จุด หรือ +0.34%
ข้อมูลที่บ่งชี้ว่าคำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีลดลงเกินคาด 3.7% เมื่อเทียบรายเดือนในเดือนต.ค. ได้ตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีหน้า หลังจากนางอิซาเบล ชนาเบล กรรมการ ECB แสดงความเห็นในเชิงผ่อนคลายนโยบายเมื่อวันอังคาร (5 ธ.ค.)
การร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนสู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือนได้ช่วยหนุนตลาดหุ้นยุโรปขึ้นด้วย ขณะที่ราคาพันธบัตรได้แรงหนุนจากข้อมูลการเปิดรับสมัครงานของสหรัฐที่ทำให้นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างเร็วที่สุดในเดือนมี.ค.ปีหน้า
หุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 1.6% ตามราคาโลหะพื้นฐานส่วนใหญ่ ขณะที่หุ้นกลุ่มเดินทางและนันทนาการ ปรับตัวขึ้น 2.3% หลังหุ้น TUI ซึ่งเป็นบริษัทด้านการเดินทางรายใหญ่ที่สุดของยุโรป พุ่งขึ้น 14.8% หลังปรับเพิ่มคาดการณ์ผลกำไรจากการดำเนินงานขึ้นอย่างมากในปี 2567
ส่วนหุ้นรายตัวนั้น หุ้นโฟลค์สวาเกนของเยอรมนี พุ่งขึ้น 5.4% หลังผู้ตรวจสอบของบริษัทในซินเจียงของจีนไม่พบสัญญาณของการบังคับใช้แรงงานแต่อย่างใด