ตลาดหุ้นเอเชียเปิดภาคเช้าลบในวันนี้ (7 ธ.ค.) โดยเคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวลดลงเมื่อวันพุธ (6 ธ.ค.) ขณะที่ นักลงทุนจับตาข้อมูลการค้าจากจีนและออสเตรเลีย
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดภาคเช้าที่ระดับ 33,165.72 จุด ลดลง 280.18 จุด หรือ -0.84% ขณะที่ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,376.44 จุด ลดลง 86.82 จุด หรือ -0.53% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,965.65 จุด ลดลง 3.28 จุด หรือ -0.11%
นักเศรษฐศาสตร์ในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า ยอดส่งออกเดือนพ.ย.ของจีนจะลดลง 1.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนยอดนำเข้าปรับขึ้น 3.3% ในช่วงเวลาเดียวกัน
ขณะเดียวกัน นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ยอดเกินดุลการค้าเดือนพ.ย.ของจีนจะเพิ่มขึ้นแตะ 5.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 5.653 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนต.ค.
ราคาน้ำมันแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มีเดียต (WTI) ของสหรัฐสัญญาส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 2.94 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 4.07% ปิดที่ 69.38 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์สัญญาส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 2.90 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 3.76% ปิดที่ 74.30 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (6 ธ.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากมุมมองที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจได้รับผลกระทบจากตลาดแรงงานที่ชะลอตัวลง แม้ปัจจัยดังกล่าวอาจจะสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นปีหน้าก็ตาม
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,054.43 จุด ลดลง 70.13 จุด หรือ -0.19%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,549.34 จุด ลดลง 17.84 จุด หรือ -0.39% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,146.71 จุด ลดลง 83.20 จุด หรือ -0.58%